วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วิธีการเพิ่มโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกาย

ปัจจุบันแม้เราจะทราบคุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมน แต่วิธีการสรรหาโกรทฮอร์โมนฉีดเข้าไปในร่างกายยังคงเป็นเรื่องยุ่งยาก
ซับซ้อนเกินกว่าคนทั่วไปจะปฏิบัติได้ ขณะเดียวกันยังคงเป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมและกฎหมายหากเราจะสกัดโกรทฮอร์โมน
จากร่างกายมนุษย์คนหนึ่งและนำไปเติมให้อีกคนหนึ่ง เดิมทีมีความพยายามนำต่อมพิทูอิทารี่จากศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วเพื่อนำ
มาสกัดเอาโกรทฮอร์โมนออกมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่แพทย์จะนำไปฉีดเข้าสู่ร่างกายผู้ต้องการรักษาวิธีการเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดผลกระทบในมุมกว้างหากความต้องการโกรทฮอร์โมนขยายตัวมากจนกลายเป็นธุรกิจการแพทย์เต็มตัว เพราะราคาค่างวดการฉีดโกรทฮอร์โมนนี้สูงมากครั้งละหลายหมื่นบาท คงจะเกิดการละเมิดศพ ทำให้ผู้ป่วยบางคนไม่สมควรตายต้องกลายเป็นศพ จนรัฐบาลบางประเทศต้องออกกฎหมายระงับการนำโกรทฮอร์โมนจากศพมาใช้กับมนุษย์โดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงของการใช้ฮอร์โมนมนุษย์โดยตรง คือบางรายหลังจากได้รับโกรทฮอร์โมนไปแล้วมีอาการผิดปกติทางระบบฮอร์โมนเพศ เช่น ผู้หญิงมีหนวดขึ้น, ผู้ชายมีนมโตขึ้น ฯลฯ ทำให้กระแสความนิยมฉีดโกรทฮอร์โมนจากมนุษย์โดยตรง ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย แม้ว่าจะให้ผลการรักษาความรวดเร็วอย่างไรก็ตาม

ในที่สุดนักวิจัยก็ได้หันกลับมาสู่วิถีทางเสิรมสร้างโกรทฮอร์โมนตามธรรมชาติ โดยปัจจุบันพบว่ามีอยู่ 6 แนวทางที่สามารถกระตุ้นต่อมพิทูอิทารี่ให้สร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมามากขึ้น แต่ละวิธีการล้วนแล้วแต่เราเองสามารถฝึกควบคุม จัดการ ได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญใดๆ

ทั้ง 6 แนวทางจะมีผลกระตุ้นต่อมไฮโปทาลามัสโดยตรง ต่อมไฮโปทาลามัสดังกล่าวอยู่ใต้สมองใกล้ๆ กับต่อมพิทูอิทารี่และปลดปล่อยฮอร์โมน GHRF ออกไปสั่งการให้ต่อพิทูอิทารี่ผลิตและสร้าง โกรทฮอร์โมนออกมา ตามรูปแผนภูมิหน้าถัดไป

วิธีการทั้ง 6 นี้ ล้วนได้รับการยืนยันทางวิชาการว่าสามารถเพิ่มระดับโกรทฮอร์โมนได้ ยิ่งหากผสมวิธีการทั้ง 6 เข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมแล้ว จะยิ่งได้ประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น

แต่ในที่นี้เราคงหันมาขยายความเฉพาะวิธีการที่ 5 คือ การเสริมกรดอะมิโนให้กับร่างกายอย่างพอเพียง เพื่อกระตุ้นการสร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมน ปัจจุบันล่าสุดส่วนผสมของกรดอะมิโนที่นิยมใช้กันมากคือ L-Lysine, L-glutamine, L-Glycine, L-Phenylalanine, L-Carnitine, L-Arginine สารชื่อแปลกๆ ยาวๆ เหล่านี้คือชื่อทางเคมีของกรดอะมิโน เราลองมาศึกษาคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของกรดอะมิโนกันก่อน

ขยายความรู้เกี่ยวกับกรดอะมิโน (Amino-acid)

เราทราบกันดีว่าโปรตีนเป็นอาหารหมวดสำคัญของร่างกายที่ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ , ผิวหนัง , เส้นเอ็น , กระดูกอ่อน , ผม , เล็บ , ขน , ต่อมไร้ท่อ , อวัยวะทั่วร่างกาย , เลือด , น้ำเหลือง , เอ็นไซม์ , ฮอร์โมน ฯลฯ ในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยโปรตีนมากเป็นอันดับสองรองจากน้ำ ( ร่างกายประกอบด้วยน้ำ 70 %) แต่ร่างกายเราไม่สามารถนำโปรตีนจากอาหารไปใช้ได้โดยตรง เนื่องจากโมเลกุลมีขนาดใหญ่เกินไป จำเป็นต้องย่อยสลายออกไปจนมีคุณสมบัติซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้งานได้ สารที่ถูกย่อยจากโปรตีนจนเล็กที่สุดนี่เอง เรียกว่า กรดอะมิโน ( Amino-acid)

กรดอะมิโนจึงนับเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมหาศาล ที่จะทำให้
ร่างกายเจริญเติบโตทั้งกล้ามเนื้อ, กระดูก, ฟัน, ผม ฯลฯ

ระบบประสาททำงานได้, สมองสั่งการได้
มีภูมิคุ้มกัน – ภูมชีวิตต้านทางโรคภัยและความเสื่อม
ทำให้วิตามินและแร่ธาตุออกฤทธิ์ต่อร่างกายได้

ยกตัวอย่างเช่น หากร่างกายขาดกรดอะมิโนชื่อ Methionine และ Taurine จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะภูมิแพ้ หรือตัวอย่างเช่นผู้สูงอายุที่ขาดกรดอะมิโนชื่อ Tyrosine, Phenylalanine, Tryptophan จะทำให้เกิดอาการ ซึมเศร้า หดหู่ เป็นต้น

ในปัจจุบันการศึกษาพบว่ามีกรดอะมิโนประมาณ 28 ชนิด แต่ที่ร่างกายมนุษย์ต้องการใช้มีอยู่ประมาณ 20 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการจัดเรียงโมเลกุลชนิดเวียนซ้าย (Levoform) ซึ่งมีอักษร L- กำกับหน้าชื่อ เช่น L-Glysine, L-Arginine ร่างกายเราสามารถนำกรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิดมาต่อเชื่อมเรียงโมเลกุลกัน เพื่อสรรค์สร้างโปรตีนได้มากมายหลายร้อยชนิดแตกต่างกัน เช่น โปรตีนภายในฮอร์โมน , โปรตีนกล้ามเนื้อ , โปรตีนเอ็นไซม์ การสร้างโปรตีนแตกต่างกันได้ก็เพียงอาศัยการจัดเรียงกรดอะมิโนไม่เหมือนกัน , ต่อเชื่อมด้วยตำแหน่งแตกต่างกัน

80% ของปริมาณกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องใช้ ตับสามารถผลิตและสังเคราะห์ขึ้นได้เองภายในร่างกาย

20 % ของปริมาณกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการใช้ ตับไม่สามารถสร้างได้ และจำเป็นต้องทางอาหารที่อุดมโปรตีนเข้าไปทดแทน เช่น L-Lysnine, L-phenylalanine ดังนั้นผู้ทานอาหารมังสวิรัติ จึงมักพบว่าร่างกายขาด L-Lysine เนื่องจาก L-Lysine ไม่พบในถั่วและธัญญพืช แต่พบในเนื้อปลาเนื้อสัตว์ ไข่ นม เป็นต้น

ขบวนการสร้าง โกรทฮอร์โมนยิ่งต้องการใช้กรดอะมิโนมากขึ้น เพราะโครงสร้างโมเลกุลของโกรทฮอร์โมนคือ “ กรดอะมิโนกว่า 191 ชนิด ” ขณะเดียวกันฮอร์โมนทั้งหลายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศ, ฮอร์โมนจากตับ, ฮอร์โมนจากไต ก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมของกรดอะมิโนหลายสิบชนิดไปจนถึงหลายร้อยชนิด ตามความซับซ้อนของหน้าที่ฮอร์โมนหรือเอนไซม์

ส่วนผสมสำคัญๆ ที่ช่วยเสริมต่อมพิทูอิทารี่ให้สร้างโกรทฮอร์โมนได้มีคุณสมบัติแยกพิจารณาเป็นรายตัวดังนี้

ชื่อส่วนประกอบ ลักษณะโดยทั่วไปและประสิทธิภาพ และ คุณประโยชน์ต่อร่างกาย

L-Lysine แอส - ไลซีน
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ต้องทานอาหารเข้าไปเสริมทดแทน
พบในอาหารจำพวกถั่ว, เนื้อหมู, เนื้อปลา, เนื้อสัตว์ปีก, นม
ใช้เสริมให้กับผู้ป่วยโรคหวัดและเสริมเพื่อเร่งฟื้นฟูร่างกายให้หายเร็วขึ้น

จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างโปรตีน
เสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและร่างกาย, ช่วยการดูดซึมแคลเซียม
ควบคุมระดับไนโตรเจนให้สมดุล
เสริมสร้างการผลิตแอนตี้บอดี้ฮอร์โมน, เอ็นไซม์, คอลลาเจน, การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือด

L-Glutamine แอล – กลูตามีน
มักพบอยู่บริเวณผิวภายนอกของโปรตีนและเอ็นไซม์
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองและพบมากที่สุดในกล้ามเนื้อ
ซึมเข้าสู่สมองได้ดีมาก
ใช้เสริมอาหารกับนักเพาะกาย นักกีฬา และผู้กำลังจำกัดอาหารลดน้ำหนัก

เป็นอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์สมองได้ดีมากและช่วยขับถ่ายของเสียออกจากสมอง
ควบคุมภาวะกรด/ด่างในเลือด
ช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ, กระเพาะอาหารและลำไส้ผิดปกติ, มะเร็ง, ลมชัก, สมรรถภาพทางเพศเสื่อม, จิตหวาดระแวง
ป้องกันการฝ่อลีบตัวของกล้ามเนื้อ

L-Arginine แอล- อาร์จินีน
พบในอาหารพวกข้าวกล้อง, ถั่วลิสง. ข้าวสาลี, ผลองุ่นแห้ง
พบได้มากภายในผิวหนังและเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนัง
ช่วยกระตุ้นร่างกายสร้างโกทฮอร์โมนเพิ่มขึ้น

ช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กล้ามเนื้อ
ช่วยเร่งการขับถ่ายไนโตรเจนส่วนเกิน ซึ่งเกิดจากโปรตีนออกจากเซลล์
ลดไขมัน, เพิ่มกล้ามเนื้อ
เร่งตับอ่อนหลั่งอินซูลิน เผาผลาญน้ำตาลในกระแสเลือด

L-Glycine แอล - ไกลซีน
เป็นกรดอะมิโนที่พบมากเป็นอันดับสองในโปรตีนและเอ็นไซม์
ช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโนมากมายหลายชนิด
ทำให้ร่างกายโดยรวมมีพลังงานเพิ่มขึ้น

จำเป็นต่อการสังเคราะห์กรดอะมิโนตัวอื่นๆ และกรดน้ำดี
จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางและสมอง
จำเป็นต่อการสร้าง DNA, RNA และกล้ามเนื้อ

L-Phenlalanine แอล - เฟนิลอลานีน
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ มีคุณสมบัติดูดซับรังสี U.V. ได้ดี
จำเป็นต่อการสังเคราะห์กรดอะมิโนอื่นๆ
ใช้เสริมการรักษาไขข้ออักเสบ, ซึมเศร้า, ปวดประจำเดือน, ปวดไมเกรน, โรคพาร์คินสัน

ช่วยในการสังเคราะห์สารตัวนำสัญญาณจากสมอง 2 ตัวคือ โดปามีน และ นอร์อิพิเนฟฟริน ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง, อารมณ์สดชื่น, ลดความปวดเมื่อย, ช่วยความจำ, ลดความอยากอาหาร

L-Carnitine แอล – คาร์นิทีน
มีโครงสร้างและคุณสมบัติต่างไปจากกรดอะมิโน ทั่วไป และไม่ได้ใช้ในขบวนการสังเคราะห์โปรตีนและเอ็นไซม์
พบในอาหารจำพวกนม, เนื้อสัตว์
ร่างกายสามารถสังเคราะห์จากกรดอะมิโน เช่น ไลซีน และ เมทิโอนีน, วิตามิน B-1, B-6, วิตามิน C
มักเสริมให้กับผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดหัวใจ
เสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามินซี, อี
คนทานมังสวิรัติมักขาดคาร์นิทีน เพราะในผักมีปริมาณไลซีน, เมทิโอนีนน้อยมาก ไม่เพียงพอ

เป็นสื่อกลางที่ช่วยเหลือการขนส่งกรดไขมันเข้าสู่เซลล์
เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันให้เป็นแหล่งพลังงานจึงช่วยลดไขมันในกล้ามเนื้อหัวใจป้องกันโรคหัวใจ
ป้องกันการเกิดไขมันสะสมในตับ เนื่องจากแอลกอฮอลล์, ป้องกันโรคตับแข็ง
ลดไขมันในผู้ป่วยเบาหวาน ที่มักจะมีภาวะไขมันเกิน
ลดไตรกลีเซอร์ไรด์และไขมันในกระแสเลือด

วิตามินซี ( กรดแอสคอร์บิค )
เป็นวิตามินละลายได้ในน้ำ ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
ใช้เสริมการรักษาไขหวัด, เหงือกอักเสบ
จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย

เสริมประสิทธิภาพการดูดซึมของกรดอะมิโน
ช่วยเสริมประสิทธิภาพของพรอสต้าแกลนดินในการขยายหลอดลม ช่วยลดอาการแน่นหน้าอกของผู้ป่วยโรคหืดหอบ
ลดปริมาณคลอเรสโตรอล และไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
ต่อต้านและยับยั้งอันตรายจากพิษของยาปฏิชีวนะ, สเตียรอยด์, บุหรี่

วิตามินปี 6 ( ไพริดอกซิน- ไฮโดรคลอไรด์ )
มีการขนานนามว่าเป็นวิตามินแห่งชีวิต เพราะจำเป็นต่อเลือดและเส้นเลือด
เกี่ยวข้องในปฏิกิริยาเอ็นไซม์มากกว่า 60 ชนิด ในขบวนการสังเคราะห์กรด
อะมิโนและกรดไขมันภายในร่างกาย

จำ เป็นต่อการย่อยแปรสภาพโปรตีนภายในอาหารให้กลายเป็นกรดอะมิโน
ช่วยเสริมสร้างความสมดุลของปริมาณเกลือแร่ โปรตัสเซียม , โซเดียมที่จำเป็นต่อระบบการสั่งงานขอประสาทและสมอง

Beta-Carotine ( วิตามิน A)
ทราบกันมานานว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยเพิ่มการมองเห็นตอนกลางคืน
ด่านแรกในการป้องกันการรุกรานของเชื้อโรคและสารพิษ และเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย

จำ เป็นต่อการเสริมสร้างกระดูก , ฟัน , เนื้อเยื่อ
กำจัดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
สริมประสิทธิภาพการดูดซึมของกรดอะมิโน
เบต้าคาโรทีนเป็นโภชนาหารที่จำเป็นต่อเซลล์