วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฮอร์โมน HGH ลดน้อยลง มีผลให้สมองฝ่อเหี่ยวลง

ฮอร์โมน HGH ลดน้อยลงมีผลให้ สมองฝ่อเหี่ยวลง ทำให้เราแก่ นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาสารอาหารพิเศษบำรุงสมอง

เพื่อให้สมองผลิตฮอร์โมน HGH ออกมาชดเชยฮอร์โมนที่ลดลง คนแก่จะกลับหนุ่มสาวขึ้น คนยังไม่แก่ก็จะช่วยชะลอความชราได้
มนุษย์ทุกยุคทุกสมัยพยายามแสวงหายาอายุวัฒนะ เพื่อหยุดความชรา แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร หยุดความชราที่ได้ผลจริง

มนุษย์ เป็นสัตว์ฉลาดจ้องหาโอกาสใช้ประโยชน์จากการค้นพบความลับของธรรมชาติอย่าง เต็มที่เสมอนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาต่อยอดความรู้กันมานาน เพื่อหาวิธีทำให้คนเราไม่แก่มีอายุยืนและเป็นหนุ่ม เป็นสาวเสมอ

ใน ปี คศ.1990 Dr. Daniel Rudman นายแพทย์นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบความลับของ ขบวนการธรรมชาติที่ทำให้คนเราแก่ ท่านยืนยันว่าการเพิ่มฮอร์โมน HGH ให้ร่างกาย จะช่วย ชะลอความชรา และทำให้คนเรากลับเป็นหนุ่มสาวขึ้นได้ 10-20 ปี ท่านได้รายงานในวารสาร การแพทย์ New England Journal of Medicine.

ในปี คศ. 1998 สมาคมคณะแพทย์ศาสตร์ Massachusetts สหรัฐอเมริกาสามารถสกัดสารกรดอะมิ โน 4 ชนิดได้แก่ Arginine, Lysine, Ornithine, Glutamine จากโปรตีน โดยการสเปรย์สารนี้พ่นเข้า ทางปากเพื่อให้สารนี้ดูดซึมจากในปากไปเลี้ยงสมอง สารอาหารสมองวันละ 2-3 หยดนี้ สามารถ กระตุ้นสมองให้หลั่งฮอร์โมน HGH ออกจากต่อมใต้สมอง ( Pituitary Gland )ได้ในเวลาที่รวดเร็ว และในปริมาณมากพอเพียง เพื่อชดเชยฮอร์โมน ส่วนที่ขาดพร่องมานานหลายปี จากการศึกษา ทดลองในผู้สูงอายุจำนวน 28,000 คนพบว่ามันช่วยหยุดขบวนการ ของความชราภาพได้ ถ้าใช้ ต่อเนื่องจะทำให้แข็งแรง สามารถฟื้นฟูการทำ หน้าที่ของร่างกายขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หนึ่งในทุกส่วน อวัยวะโดยเฉพาะในระบบเซลล์ สมอง ประสาท กล้ามเนื้อ กระดูก หัวใจ ไต ตับ ปอด ขบวน การย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายและความอ่อนแอต่างๆ ของร่างกาย ทุกอย่างที่เสื่อมเสียไปก็จะฟื้น กลับคืนมา (หากไม่มีอะไรที่เสื่อมหรือเสียอย่างถาวร) และเมื่อร่างกายกลับฟื้นแข็งแรงขึ้นมา ความเสื่อมและโรคภัยทุกอย่างก็จะพ่ายแพ้หายไป เป็นอาหารบำรุงสมอง เป็นอายุวัฒนะที่ ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ล้วนๆ สามารถพิสูจน์ ได้และเห็นผลในเวลาที่รวดเร็วมาก ดีแบบไร้ ที่ติเพราะมันเป็นฮอร์โมนธรรมชาติ ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมสำหรับร่างกาย จึงดีกว่าการกินฮอร์โมนหรือฉีดฮอร์โมนเข้าใต้ผิวหนัง

Dr.Ronald Klatz. (ประธานสถาบันป้องกันความชราแห่งสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกใน ประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ ที่เราสามารถ เข้าแทรกแซงกระบวนการชราภาพ ฟื้นฟูความ เป็น หนุ่มสาว เสริมภูมิคุ้มกันชีวิต มันเป็นเครื่องมือพิเศษที่ต่อสู้กับความชราภาพ เป็นจุดกำเนิดของ
ความไม่แก่ เป็นการสิ้นสุดของความแก่ ความชราภาพ”

สา รอะมิโนอาหารสมองสำเร็จรูป จะช่วยหยุดความชราได้ในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง จะมีก็แต่ผลดี โอกาสดีๆ ของคนเรามันอาจผ่านมาเพียงครั้งเดียว ในชีวิต จึงไม่ควรรีรอให้มันผ่านเลยไป (ความปรารถนาที่จะทำให้ใครๆได้มารู้จักกับสิ่งที่ดีๆนี้ อยู่เหนือผลประโยชน์ส่วนน้อยที่จะได้รับจาก บริษัท )

หมายเหตุ
เรา ใช้คำว่ามากหรือน้อยของฮอร์โมนเพราะเราตวงวัดฮอร์โมนไม่ได้ เรารู้เพียงว่าในเด็กและวัยรุ่น หนุ่มสาวได้รับฮอร์โมนเจริญพันธุ์ ในปริมาณที่มากเต็มที่ ผิวพรรณดี กินก็เก่ง วิ่งเล่นไม่รู้จักเหนื่อย เจ็บป่วยน้อย ส่วนในคนวัยกลางคนและคนแก่ ร่างกายไม่แข็งแรง อ่อนเพลีย เจ็บป่วย มีโรคภัย เบียดเบียนมาก เพราะฮอร์โมนวัยเจริญพันธุ์หลั่งน้อยลง ฮอร์โมนคือชีวิตและสุขภาพดี มันคือ ความเป็นความตายของคนเรา เมื่อฮอร์โมนหมด ชีวิตก็จบ

ฮอร์โมนเกิดมาจากสมอง มันเป็นคำสั่งของสมอง เพื่อเข้าควบคุมดูแลบังคับบัญชาร่างกายทุกหน่วย อวัยวะให้ทำหน้าที่อย่างดีเรียบร้อย ไม่ปรวนแปร อยู่ในระเบียบ ทุกระบบจะเป็นไปโดย อัตโนมัติ เมื่อหมดหน้าที่ของวัยเจริญพันธุ์แล้วคนเราก็ต้องกลับบ้านเก่า ฮอร์โมนจะหลั่งลดลงทุกปีๆีละ 1-2 % หรือมากกว่านั้นนับจากอายุประมาณ 25 ปี ฮอร์โมนลดลงก็ทำให้สมองฝ่อเหี่ยว หดตัวเล็กลงในอัตราที่ใกล้เคียงกัน เมื่อสมองเสื่อม ร่างกายและสุขภาพก็เสื่อมถอยลงตามลำดับ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ปวดหลัง ปวดเข่า นอน ไม่หลับ กระดูกพรุน ความจำเสื่อม หูตามัว ความดัน หัวใจ เบาหวาน อัมพาต ไตเสื่อม ตับเสื่อม ธรรมชาติยังได้กำหนดให้ระบบเคี้ยวย่อยอาหารของคนเราด้อยประสิทธิภาพลง สารอะมิโน ที่จะได้จากอาหารพวกโปรตีนก็ลดน้อยลงด้วย คนเราจำเป็นต้องข้ามขั้นตอน ด้วยการเสริมสารอาหารพร้อมใช้อะมีโนอาหารสมองสำเร็จรูป มากระตุ้นให้สมอง กลับมาหลั่งฮอร์โมนเพิ่มขึ้นใหม่ในปริมาณที่มากเต็มที่ สุขภาพที่ดีแข็งแรงก็จะฟื้นคืนกลับมาได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ฮอร์โมน ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว เปรียบเหมือนยังมีน้ำเต็มอ่าง เมื่อน้ำลดลงเราก็เติมน้ำเมื่อฮอร์โมนลดลงเราก็ เติมฮอร์โมนให้เต็ม Bio Spray อาหารสมองสำเร็จรูปนี้ ใช้ know how ที่ถูกพัฒนาให้พ่นเข้าทางปาก ถูกดูดซึมจากในปากเดินทางถึงสมองได้ในเวลาเพียง 5 นาที เมื่อสมองได้รับอาหารเสริมเต็มที่ ต่อมใต้สมองก็จะหลั่งฮอร์มนธรรมชาติ ที่มากพอเพียงออกมา จึงรับรองได้ว่าร่างกายจะได้รับฮอร์โมนแน่นอนในระดับคงที่และสม่ำเสมอ

มีเงิน 100 ล้าน 1,000 ล้าน แต่สุขภาพไม่ดีก็ - ขาดทุนชีวิต

ผลที่ได้รับจากการใช้ Biospray
เดือนที่ 1 นอนหลับสบาย ร่างกายอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านบ้าง ควรเฝ้าสังเกตอาการว่าจะปรับเพิ่มหรือ ลดการใช้
เดือนที่ 2 จะช่วยขับล้างสารพิษในทุกระบบ ให้ดื่มน้ำตามมากๆ ทุกวัน ความรู้สึกทางด้านความรักจะ ดีขึ้น
เดือนที่ 3 กล้ามเนื้อกระชับ บางคนไรผมขึ้น บางคนผมดำขึ้นในบางส่วน ความจำดีขึ้น การนอน หลับดีขึ้นมาก
เดือนที่ 4 อารมณ์ดีจิตใจแจ่มใส ผิวพรรณเต่งตึง เหงือกฟันแน่นขึ้น กล้ามเนื้อแขนตึงขึ้น ความปวด เมื่อยลดลง
เดือนที่ 5 ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น กระตีนกาจางลง ผิวหนังชั้นในส่วนลึกหนาขึ้นยืดหยุ่นดี รู้สึก กระชับ
เดือน ที่ 6 สายตาดีมองในที่มืดดีขึ้น สมานแผลหายเร็ว รู้สึกฟิตและเฟิร์มเหมือนนักกีฬา เรื่องความรัก ดีมาก เมื่อร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไตเสื่อม ปวดเข่า และโรคเสื่อมอื่นๆ จะ พ่ายแพ้หายไป

“What your doctor don’t know what natural cure may be killing you.” Dr. Ray D. Strand MED.

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

โกรทฮอร์โมน growth hormone (GH)

โกรทฮอร์โมน growth hormone (GH)
โกรทฮอร์โมน growth hormone (GH) เป็นฮอร์โมนชนิดโปรตีน หรือที่เรียกว่าเปปไทด์ฮอร์โมน โครงสร้างประกอบด้วยกรดอะมิโน 190 ตัว เป็นฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า และมีผลต่อการเจริญเติบโต รวมทั้งเมตะบอลิสซึมของร่างกาย มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า somatotropin
ยีนที่ควบคุมการสร้างโกรทฮอร์โมน อยู่บน q22-24 region ของโครโมโซมคู่ที่ 17 และมีลักษณะใกล้เคียงกับยีนที่ควบคุมการสร้าง human chorionic somatomammotropin (hCS) หรือที่เรียกว่า placental lactogen ฮอร์โมนทั้ง 3 ชนิด คือ
GH, human chorionic somatomammotropin (hCS), และ prolactin (PRL) จัดอยู่ในกลุ่ม
เดียวกัน เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต และการสร้างน้ำนม
โกรทฮอร์โมนรูปแบบที่พบในร่างกายมนุษย์มากที่สุด ประกอบด้วยกรดอะมิโน 190 ตัว น้ำหนักโมเลกุลประมาณ 22,000 ดาลตัน โครงสร้างเป็นแบบเกลียวชนิดสี่เกลียว มีส่วนที่ทำหน้าที่จับกับตัวรับ โกรทฮอร์โมนในสัตว์แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ถ้านำมาใช้ในมนุษย์ต้องเป็นของมนุษย์เองและสัตว์ประเภทลิงเท่านั้น หรือใช้โกรทฮอร์โมนชนิดสังเคราะห์

การสร้างโกรทฮอร์โมน growth hormone (GH)
โกรทฮอร์โมนสร้าง และหลั่งออกมาจากเซลล์ที่มีชื่อเรียกว่า โซมาโตรโทรฟ(somatotrophs) ซึ่งอยู่ในต่อมใต้สมองส่วนหน้า การสร้างโกรทฮอร์โมนถูกควบคุมโดยปัจจัยต่างๆ หลายชนิด ได้แก่ ภาวะความเครียด การออกกำลังกาย ภาวะโภชนาการ การนอน รวมทั้งตัวโกรทฮอร์โมนเองด้วย
ปัจจัยที่ควบคุมที่สำคัญเป็นฮอร์โมน 3 ชนิด เป็นฮอร์โมนจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส 2 ชนิด และฮอร์โมนจากกระเพาะอาหารอีกหนึ่งชนิด ได้แก่
1. growth hormone-releasing hormone (GHRH) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนเช่นเดียวกัน สร้างมาจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมน และควบคุมการหลั่งของโกรทฮอร์โมนอีกด้วย
2. somatostatin (SS) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมน ที่ผลิตมาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดในร่างกาย รวมทั้งสมอง ส่วนฮัยโปธาลามัส จัดเป็นฮอร์โมยับยั้ง มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมน ในขณะที่ร่างกายกำลังตอบสนองต่อผลของ GHRH นอกจากนี้ยังพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดต่ำลงจะกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมน นี้ด้วย
3. ghrelin เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากเยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ฮอร์โมนนี้มีความสามารถในการจับกับตัวรับซึ่งอยู่บนเซลล์ชนิด somatotrophs และกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ในปริมาณมากพอสมควร

การหลั่งโกรทฮอร์โมน growth hormone (GH)
การหลั่งโกรทฮอร์โมนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการย้อนกลับที่เกี่ยวข้องกับ IGF-Iในขณะที่ระดับของ IGF-I เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาน้อยลง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากกลไกที่สำคัญสองประการ ประการแรก เกิดจากการกดการทำงานของเซลล์ชนิด somatotroph และประการที่สองเกิดจากการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน somatostatin จากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส
1. โกรทฮอร์โมนยังสามารถย้อนกลับไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน GHRH และมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมน somatotroph
2. การหลั่งโกรทฮอร์โมน เป็นแบบไม่สม่ำเสมอ มีบางช่วงที่มากและบางช่วงที่น้อย อันเป็นผลเนื่องมาจากปัจจัยข้างต้น
3.สำหรับระดับของโกรทฮอร์โมนในเลือดที่พื้นฐานถือว่าต่ำมาก
4.ในเด็กและวัยรุ่น พบว่าการหลั่งโกรทฮอร์โมนจะเกิดขึ้นมากที่สุดภายหลังจากขณะที่นอนหลับหลับลึก

โกรทฮอร์โมน growth hormone (GH) ทำหน้าที่อะไร
โกรทฮอร์โมนเกี่ยวข้องกับการควบคุมขบวนการต่างๆ ในร่างกายการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมทั้งกระบวนการเมตะบอลิสซึมในร่างกาย เป็นที่ทราบกันดีในขณะนี้ว่าผลที่เกิดจากโกรทฮอร์โมนในร่างกายมีสองชนิด ชนิดแรก เป็นผลโดยตรง และชนิดที่สอง เป็นผลทางอ้อม
ผลโดยตรง เกิดจากการที่โกรทฮอร์โมนไปจับกับตัวรับบนเซลล์ เป้าหมาย ยกตังอย่างเช่น เซลล์เป้าหมายเป็นเซลล์ไขมัน เซลล์ไขมันจะมีตัวรับ โกรทฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมันชนิด ไตรกลีเซอไรด์ และยับยั้งการสะสมไขมันที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด
ผลทางอ้อม เกิดขึ้นผ่านทางสารอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า 'สารกระตุ้นเจริญเติบโตที่คล้ายอินซูลิน' หรือ insulin-like growth factor-I (IGF-I) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากตับ และเนื้อเยื่ออื่นๆ การสร้าง IGF-I เป็นผลจากโกรทฮอร์โมนโดยตรง ส่วนใหญ่แล้วผลของโกรทฮอร์โมนเกิดจาก IGF-I ออกฤทธิ์ที่เซลล์เป้าหมาย


ผลของ growth hormone ที่มีต่อกระบวนการเจริญเติบโต

ผลของ growth hormone ที่มีต่อกระบวนการเจริญเติบโต
กระบวนการเจริญเติบโตของ ร่างกายมีความสลับซับซ้อนหลายประการ และอาศัยการทำงานประสานสอดคล้องกันของฮอร์โมนหลายชนิด สำหรับบทบาทสำคัญของโกรทฮอร์โมนในการเจริญเติบโตของร่างกาย เป็นการกระตุ้นตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ ให้สร้าง IGF-I
บทบาทของ insulin-like growth factor-I (IGF-I)
1. IGF-I กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์สร้างกระดูกอ่อน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก ส่วนโกรทฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงกระตุ้นให้เซลล์กระดูกอ่อนเกิดการพัฒนาจำแนก ชนิดต่อไป ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก
2. IGF-I กระตุ้นให้มีการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ โดยกระตุ้นเซลล์มัยโอบลาสท์ให้แบ่งตัวเพื่อทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงและเพิ่ม จำนวนเซลล์ นอกจากนี้ยักระตุ้นการนำกรดอะมิโนมาใช้ และกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ อีกด้วย


ผลของ growth hormone ที่มีต่อกระบวนการเมตาบอลิสซึม
ผลของโกรทฮอร์โมนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกฤทธิ์โดยตรงของโกรทฮอร์โมนเอง หรือเป็นผลมาจาก IGF-I ก็ตาม ในบางกรณีอาจเป็นผลมาจากทั้งสองอย่างก็ได้
1. ผลต่อโปรตีน พบว่าโกรทฮอร์โมนจะกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน ลดปฏิกิริยาเผาผลาญโปรตีน และสามารถนำกรดอะมิโนมาใช้เพิ่มมากขึ้น โดยรวมถือเป็นการเพิ่มเมตาบอลิสซึมของโปรตีนในร่างกาย
2. ผลต่อไขมัน พบว่าโกรทฮอร์โมนมีฤทธิ์เพิ่มการใช้ไขมัน กระตุ้นการสลายตัวของไตรกลีเซอไรด์ และช่วยเร่งปฏิกิริยาภายในเซลล์ไขมันชนิดอะดิโปซัยท์
3. ผลต่อคาร์โบไฮเดรต พบว่าโกรทฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยออกฤทธิ์ตรงข้ามกับฮอร์โมนอินซูลิน ตัวของมันเองยับยั้งฤทธิ์ของอินซูลินที่เนื้อเยื่อปลายทาง และยังกระตุ้นให้ตับสร้างกลูโคสออกมามากขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อฉีดโกรทฮอร์โมนเข้าไปในร่างกาย จะทำให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มมากขึ้น และระดับอินซูลินจะเพิ่มมากขึ้นด้วย

growth hormone เกี่ยวข้องกับความสูง-ความเตี้ยอย่างไร?
เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมน growth hormone (GH) จะมีหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง รูปร่างเตี้ยเล็กแต่สมส่วน อ้วนกลมเนื่องจากมีไขมันสะสมบริเวณลำตัวมาก ถ้าเป็นเด็กชายมักมีอวัยวะเพศเล็กไม่สมวัย อย่างไรก็ตามภาวะขาดโกรทฮอร์โมนไม่มีผลกระทบต่อระดับสติปัญญาของเด็ก นอกจากภาวะขาดโกรทฮอร์โมนแล้ว การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนและฮอร์โมนเพศยังมีผลทำให้เด็กเตี้ย เช่นเดียวกับการมีฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตมากเกินไป เด็กจะมีรูปร่างอ้วนเตี้ย
สาเหตุที่ทำให้เด็กตัวเตี้ย
1. สาเหตุที่ทำให้เด็กตัวเตี้ยมีหลายประการ ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ดังนั้น เด็กที่มีลักษณะเตี้ยเล็ก ควรปรึกษา และรับการตรวจจากแพทย์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยทั่วไปเด็กสาวที่มีประจำเดือนมาแล้วนาน 3 ปี และเด็กหนุ่มที่มีเสียงแตกมานาน 3 ปี มักจะหยุดโตแล้ว และหมดโอกาสเพิ่มความสูงอีก
2. สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กเตี้ย คือ ปัจจัยทางพันธุกรรม เรียกว่า 'เตี้ยตามกรรมพันธุ์' เด็กกลุ่มนี้จะมีพ่อและแม่เตี้ย อย่างไรก็ตามบางครั้งพบว่าลูกไม่เตี้ยเหมือนพ่อแม่ก็เป็นได้เช่นกัน
3. การที่จะทราบว่าเด็กตัวเตี้ย ให้นำความสูงของเด็กมาจุดลงบนเส้นกราฟมาตราฐานการเจริญเติบโต growth chart ซึ่งแยกเป็นกราฟสำหรับเด็กหญิง และเด็กชาย ถ้าความสูงอยู่ต่ำกว่าเส้นสุดท้ายแสดงว่าเด็กเตี้ยกว่ามาตราฐานที่ควรจะเป็น เด็กแรกเกิดถึง 1 ปี ความสูงจะเพิ่มปีละ 25 เซ็นติเมตร เมื่ออายุ 1-2 ปี ความสูงจะเพิ่มปีละ 10-12 เซ็นติเมตร เมื่ออายุ 2-4 ปี ความสูงจะเพิ่มปีละ 6-7 เซ็นติเมตร และเมื่ออายุ 4-10 ปี ความสูงจะเพิ่มปีละ 5 เซ็นติเมตร
4. ปัญหาเตี้ย เนื่องจากมีโรคที่เกิดความผิดปกติของกระดูกพบได้ประปราย ทั้งเรื่องของมวลกระดูกความแข็งแรงของเนื้อกระดูก และภาวะที่มีการทำลายเซลล์กระดูกบางส่วน อายุกระดูกได้จากการถ่ายภาพรังสีที่มือ และข้อศอกของเด็ก แล้วนำมาเปรียบเทียบกับภาพรังสีมาตราฐานของเด็กปกติตามเพศ และวัยต่างๆ อ่านออกมาเป็นปี และเดือน
5. เด็กบางคนตัวเตี้ย เข้าสู่วัยหนุ่มสาวช้ากว่าเพื่อนๆ แต่เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงตามที่ควรจะเป็นตามกรรมพันธุ์ เด็กที่ตัวเตี้ยและเข้าสู่วัยรุ่นช้ากลุ่มนี้ เรียกว่า'ม้าตีนปลาย' ตรงข้ามกับเด็กที่อ้วนซึ่งมักจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ และหยุดโตเมื่อมีอายุน้อยกว่าเด็กปกติเปรียบได้กับม้าตีนต้น และความสูงเมื่อหยุดโตน้อยกว่าความสูงที่ควรจะเป็น

โกรทฮอร์โมน (Growth hormone)เป็นยาอายุวัฒนะ จริงหรือ ?

โกรทฮอร์โมน (Growth hormone)เป็นยาอายุวัฒนะ จริงหรือ ?
IGF-1 กับ ความชรา
ร่างกายของมนุษย์จะมีกระบวนการ 2 อย่างที่ทำงานพร้อมกัน คือ กระบวนการเจริญเติบโต และกระบวนการเสื่อมโทรม อัตราการเกิดของ 2 กระบวนการนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและกลไกที่ขับเคลื่อนกระบวนการนี้คือ ฮอร์โมนในกลุ่มของ GH (Growth Hormone ) ที่สร้างจากต่อมไรท่อที่อยู่ใต้สมอง ( Pituitary Gland )ฮอร์โมนนี้จะถูกขับออกมาผ่านกระแสเลือดไปยังตับ เพื่อให้ผลิตฮอร์โมนIGF-1
Insulin-Like Growth Factor-1 (IGF-1) จัด ว่าเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายในการป้องกันและช่วยยืดอายุของ เซลล์ ทำให้ร่างกายไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรส่งเสริมการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ให้เผาผลาญสารอาหารได้พลังงานสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ และยังช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลที่ได้จากการย่อยอาหารจึงเหมาะ สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและต่ำ และIGF-1ที่ช่วยเพิ่มวิตามิน D-3 ช่วยบำรุงแคลเซียมให้กระดูกและช่วยลดอาการเป็นเก๊าท์ได้ดี
และจากการศึกษาของ Clark R.และคณะ ในปี 1993ได้รายงานถึงความสำคัญของIGF-1 ที่ช่วยเพิ่มเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว ดังนั้นถ้าในกระแสเลือดมี IGF-1 สูงร่างกายจะแข็งแรงมีชีวิตชีวาและดูอ่อนกว่าวัย
ในช่วงอายุ 20 ปีแรก ฮอร์โมน GH จะหลั่งออกมามากกระบวนการเติบโตจะทำงานได้ดี ในขณะที่กระบวนการการเสื่อมโทรมจะทำงานช้าๆ
อายุช่วง 40 ปีขึ้นไป ฮอร์โมน GH จะน้อยลงกระบวนการ
เจริญเติบโตจะลดลงอย่างรวดเร็วในอัตรา 0.3-1.3% ต่อปี ขณะที่กระบวนการเสื่อมโทรมจะเกิดรวดเร็ว ดังนั้นการที่เราได้ IGF-1 ทด แทน ในส่วนที่ขาดหายไปจากการที่เรามีอายุมากขึ้นด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้เรา สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงเปรียบเสมือนคนหนุ่มสาวได้อยู่ตลอดเวลา
สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายท่านมี IGF-1 ลดน้อยลง สังเกตได้จากลักษณะดังนี้
- หน้ามีกระฝ้า ผิวหนังเหี่ยวย่นหย่อนยาน
- ความจำเสื่อมลง
- มีปัญหาทางสายตา
- ผมเริ่มหงอกและบางลง
- ร่างกายเฉื่อยชา ขาดความกระตือรือร้น
- อ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรง เหนื่อยง่าย อารมณ์ไม่คงที่

- เล็บงอกช้า เปราะแตกหักง่าย แผลหายช้า
- กระดูกเปราะบาง ข้อต่อเสื่อมลง ( กระดูกพรุน )
- คลอเลสเตรอรอนและไตรกีเซอร์ไรด์สูง (ในเส้นเลือด )
- น้ำหนักเพิ่มหรือลดมากไป เริ่มมีหน้าท้อง
- นอนหลับไม่สนิทหรือหลับยากหลับน้อยกว่าปกติ
- ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง ป่วยบ่อย
- ความดันโลหิตสูงหรือต่ำมากไป
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์พิเศษที่ช่วยกระตุ้นต่อมพิจูอิตารี่ใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนเจริญวัย (HGH) อย่างเป็นธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายของเรา Bio Spray ประกอบด้วย ส่วนผสมของกรดอะมิโนที่ได้จากกรรมวิธีทางเทคโนโลยีชีวภาพ และ IGF-1 ซึ่งสกัดมาจากหัวน้ำนม กรดอะมิโนที่ใช้มีสี่ชนิด ได้แก่ อาร์จินีน ออร์นิทีน กลูตามีน และ ไลซีน เป็นส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการศึกษาทางคลินิก ตามที่อ้างถึงในหนังสือ “Grow Young with HGH” ของนายแพทย์ โรนัลด์ คลัทซ์ ผู้ก่อตั้งและประธานสถาบันต่อต้านความชราแห่งสหัรัฐอเมริกา บทที่ 16 หน้า 200 ภายใต้หัวข้อเรื่อง คำแนะนำในการใช้สารอาหารกระตุ้นฮอร์โมนเจริญวัย ” Bio Spray เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่บริสุทธิ์และปลอดภัย 100 % มั่นใจได้ว่าปราศจากผลข้างเคียง และให้ผลของ HGH ครบถ้วนทุกประการ

ความผิดปกติของโกรทฮอร์โมน

เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมนจะมีหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง รูปร่างเตี้ยเล็กแต่สมส่วน อ้วนกลมเนื่องจาก มีไขมันสะสมบริเวณลำตัวมาก น้ำตาลในเลือดต่ำ ถ้าเป็นเด็กชายมักมีอวัยวะเพศเล็กไม่สมวัย การขาดโกรทฮอร์โมน ไม่มีผลกระทบต่อระดับสติปัญญาของเด็ก (แต่มักมีปัญหาด้านจิตใจ) เรียกภาวะนี้ว่า การเตี้ยแคระหรือ dwarfism
การขาดโกรทฮอร์โมนทำให้ร่างกายเตี้ยแคระ (dwarfism)
ร่างกายเตี้ยแคระไม่ได้เกิดจากการขาดโกรทฮอร์โมนเสมอไป บางครั้งโกรทฮอร์โมน ในกระแสเลือดปกติ แต่ตัวรับสัญญาณไม่ตอบสนองต่อโกรทฮอร์โมน ซึ่งมักอาจเกิดจากการผ่าเหล่า(mutation)ของยีนของตัวรับสัญญาณ ทำให้โกรทฮอร์โมนทำงานไม่ได้ เรียกการเตี้ยแคระแบบนี้ว่าการเตี้ยแคระแบบลาร์สันหรือ การไม่ตอบสนองต่อโกรทฮอร์โมน (Larson dwarfism หรือ growth hormone insensitivity)
เปรียบเทียบความสูงของเด็กที่มีฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำและเด็กเตี้ยแคระเนื่องจากโกรทฮอร์โมนต่ำกับเด็กปกติอายุ 2 ปี และเด็กปกติอายุ 8 ปีจะพบว่า
เด็กที่ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำจะตัวเตี้ยแขนขาสั้นเท่ากับเด็กอายุ 2 ปีและเตี้ยกว่าเด็กปกติ
เด็กที่เตี้ยแคระเนื่องจากขาดโกรทฮอร์โมนจะสมส่วน (สังเกตระดับกระดูกเชิงกราน) แต่เตี้ยกว่าเด็กปกติ ที่อายุเท่ากันอยู่มากเช่นกัน
นอกจากภาวะขาดโกรทฮอร์โมน ( growth hormone) แล้ว การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนและฮอร์โมนเพศ ยังมีผลทำให้ เด็กเตี้ยแต่การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนมักหมีผลทางด้านสติปัญญาร่วมด้วย การมีฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตมากเกินไป ก็ทำให้เด็กมีรูปร่างอ้วนเตี้ยได้

หนุ่มสาวอีกครั้งด้วยโกรทฮอร์โมน

วงการแพทย์ตะวันตกลงความเห็นว่า ความชราหรือความแก่นี้ จัดเป็นโรคแล้วนะขอบอก เมื่อจัดเป็นโรคก็ต้องมีแพทย์เฉพาะทางดูแลโดยตรง คือ แพทย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ หรือ Anti-aging specialist
อ่านเจอในนิตยสารพลอยแกมเพชรเขียนโดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ฉบับที่ 381 15 ธค. 50 น่าสนใจมั่กๆสำหรับคนรักสวยรักงามและอยากเป็นหนุ่มเป็นสาวไม่รู้จบ ไชโย....ต่อไปนี้พวกเราก็ต่างพากันหล่อพากันสวยไปชั่วกาลนานเลย จึงรีบเร่งสรุปย่อๆให้ชาว Blog อ่าน เพื่อจะได้สวยๆหล่อๆโดยทั่วหน้า
ตามอ่านนะ เริ่มสรุปแล้วส์.. นัก วิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาความชราตั้งทฤษฎีไว้ว่า เหตุที่คนเราแก่เกิดจากสมองสร้างฮอร์โมนได้น้อยลง แค่ต่อมใต้สมองอย่างเดียวก็ผลิตฮอร์โมนได้เกือบสิบชนิดแล้ว แต่ฮอร์โมนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราแก่หรือเด็กลงได้ คือ โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ถือกันว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาวเลยทีเดียวเชียวแหละ ในยุคเรอเนสซองซ์ บรรดากษัตริย์-ราชินีแห่งยุโรปพากันส่งทหารไปเสาะหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยเดินทางตามหากันไกลครึ่งค่อนโลก ก็ไม่พบ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่า น้ำพุแห่งความเยาว์วัยอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง ใกล้ยิ่งกว่าปลายจมูกซะอีก นั่นคือ โกรทฮอร์โมน จากต่อมใต้สมองของเรานี่เอง วัย รุ่นที่สดใสก็เพราะมีโกรทฮอร์โมนมาก ช่วยกระตุ้นทั้งร่างกายและจิตใจให้มีความสดชื่นแจ่มใส กระชุ่มกระชวย แต่พอถึงอายุ 25 ปี ฮอร์โมนตัวนี้จะลดต่ำลงถึงปีละ 15 % ทุกสิบปี ทำให้ รู้สึกล้าแต่ไม่เชิงเหนื่อย เพลีย แต่นอนมากเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม อยากจะนอนอยู่นั่นแหละ นอนหลับไม่สนิท ตอนเช้าไม่อยากตื่น ไม่มีแรงลุกไปทำงาน พอตกบ่ายง่วงอีกแล้ว ลุกนั่งเร็วๆมีอาการหน้ามืดง่าย กินน้อยแต่อ้วนมาก น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงยาก ความจำแย่ลง มีริ้วรอยบนใบหน้า อีกเยอะแยะมากมาย ขี้เกียจสาธยาย เพราะเราเป็นทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมดนั่นแหละ อาการเหล่านี้ คือ อาการของโรคที่เรียกว่า โรคชรา
ปัจจุบันวงการแพทย์ตะวันตกลงความเห็นว่า ความชราหรือความแก่นี้ จัดเป็นโรคแล้วนะขอบอก เมื่อจัดเป็นโรคก็ต้องมีแพทย์เฉพาะทางดูแลโดยตรง คือ แพทย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ หรือ Anti-aging specialist ซึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใหม่ล่าสุดโดยตรง เช่น การใช้ฮอร์โมนธรรมชาติ ขอย้ำไม่ใช่ฮอร์โมนสังเคราะห์นา ก็คือโกรทฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองของท่านทั้งหลายนั่นแหละจ้า.... เลิศสุดๆ
ห้าม พลาดตอนต่อไป ตอนนี้เรารู้แล้วนี่ว่าทำไมถึงแก่ ตอนต่อไปเป็นขั้นตอนการทำตัวยังไงถึงไม่ให้แก่ จนแยกอายุจริงกับอายุที่ตัว/อายุที่เห็นไม่ได้เลย สน...ใช่มั๊ย ถ้าสน....ก็ต้องติดตามอ่านตอนต่อไป เพื่อความเป็นหนุ่มสาวนิรันดร์

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Human Growth Hormone : HGH


"โรคเสื่อมถอย" ความชรา ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
มนุษย์ สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
Human Growth Hormone : HGH
รอยเหี่ยวย่น ผมบาง ผมหงอก โรคอ้วน สมรรภาพเสื่อม ต่อมลูกหมาก ความจำเสื่อม สายตาพล่ามัว กระดูกพรุน ปวดเมื่อย ไมเกรน ไตเสื่อม เบาหวาน หัวใจ ความดัน ภูมิแพ้ ฯลฯ อาการของโรคเสื่อมต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว


มหัศจรรย์ร่างกายมนุษย์

คนมีอวัยวะต่างๆ ถึง 11 ระบบ จะมีการทำงานร่วมกัน เพื่อบรรลุถึงการทำงานที่ถูกต้องของร่างกาย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีตัวเชื่อมหรือตัวควบคุมให้ระบบต่างๆ เหล่านี้ทำงานได้ด้วยความถูกต้องแม่นยำ ระบบสื่อสารของคนมี 2 วิธีคือ

การสื่อสารด้วยประสาท (Nervous communication)
การสื่อสารด้วยสารเคมี (Hormonal communication)

จึงมีตัวควบคุม 2 ชนิดคือ ระบบประสาท (Nervous system)
ฮอร์โมน (Hormone)

ในที่นี้จะกล่าวถึง การสื่อสารด้วยสารเคมี ที่มีฮอร์โมนเป็นตัวควบคุม

ฮอร์โมนคืออะไร? ฮอร์โมน เป็นสารเคมีจำพวกกรดอะมิโนที่สร้างขึ้นจากเซลจำเพาะของต่อมไร้ท่อ หรือสร้างจากเซลจำเพาะของอวัยวะบางชนิด หรือจากเซลประสาทบางกลุ่ม ซึ่งเซลจำเพาะเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อตัวกระตุ้นจำเพาะจากระบบประสาทหรือกระแสเลือด ฮอร์โมนที่สร้างขึ้นแล้วจะหลั่งตรงเข้าสู่หลอดเลือดฝอยที่เลี้ยงอยู่รอบๆ ต่อมไร้ท่อนั้น ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย และจะออกฤทธิ์ต่ออวัยวะหรือเซลที่มีตัวรับสัญญาณจำเพาะสำหรับฮอร์โมนชนิดนั้น จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายเกี่ยวกับเมตาบอลิซึมต่างๆ ได้แก่ การให้พลังงาน, กระตุ้นให้มีการเจริญเติบโต, ระบบอีเลคโทรไลท์และน้ำ, มีพัฒนาการของร่างกาย, การสืบพันธุ์ ตลอดจนการตอบสนองต่อความเครียดต่างๆ การทำงานของฮอร์โมน ต่อมไร้ท่อจะสร้างฮอร์โมนตลอดเวลา โดยจะหลั่งฮอร์โมนจำนวนหนึ่งออกสู่กระแสเลือดในปริมาณที่ร่างกายต้องการ ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ในต่อม อัตราการสร้างจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อร่างกายมีความต้องการเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนที่หลั่งสู่กระแสเลือดจำนวนมากจะจับกับโปรตีนที่เป็นตัวพา โดยฮอร์โมนที่จับโปรตีนเหล่านี้จะออกฤทธิ์ไม่ได้ แต่เมื่อร่างกายต้องการฮอร์โมนมากขึ้น จึงจะหลุดจากโปรตีนตัวพาแยกออกมาเป็นฮอร์โมนอิสระ จากนั้นจึงจะสามารถออกฤทธิ์ต่อเซลเป้าหมายในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ เมื่อออกฤทธิ์แล้ว ฮอร์โมนส่วนมากจะถูกทำลายที่เซลเป้าหมาย หรือถูกทำลายโดยเอ็นไซม์ในกระแสเลือด หรืออวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ, ไต แล้วถูกขับออกจากร่างกายทางน้ำดี, ปัสสาวะ และอุจจาระปัจจุบันมีความก้าวหน้าอย่างมากด้านเคมีของโปรตีนและเป็ปไทด์ (Peptide) ซึ่งเป็นเทคนิคสำหรับหา Amino acid sequences ในการสังเคราะห์ เป็ปไทด์ ที่ให้ประโยชน์ด้านการรักษา รวมถึงความก้าวหน้าทางชีววิทยาโมเลกุล ที่มีเทคนิค Recombinant DNA ในการสังเคราะห์ฮอร์โมนในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ปัจจุบันพบว่ามีฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้าจำนวน 10 ชนิด จากการศึกษาพบว่าในคนมีฮอร์โมนสำคัญ 6 ชนิดในที่นี้จะพูดถึงเฉพาะ Human Growth Hormone (hgh, Somatotropin ก็เรียก) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของมนุษย์

Human Growth Hormone (hgh) hgh คือฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของมนุษย์ เกี่ยวข้องกับ Growth Hormone - Releasing Hormone (GHRH)

Growth Hormone - Inhibiting Hormone (GHIH, Somatostatin ก็เรียก)

GHRH
G HRH เป็นเป็ปไทด์สายเดี่ยว ประกอบด้วยกรดอะมิโน 44 ตัว ซึ่งได้มาจากกรดอะมิโนตั้งต้นจำนวน 108 ตัว เป็นฮอร์โมนจากสมอง (ไฮโปรทาลามัส) เพื่อไปกระตุ้นให้ต่อมใต้สมอง (พิทุอิทารี) ส่วนหน้าให้หลั่ง hgh และ Prolactin

GHIH
GHIH เป็นโพลีเป็ปไทด์ของกรดอะมิโน 14 ตัว และมี Somatostatin เป็นสารตั้งต้น เป็นฮอร์โมนจากไฮโปรทาลามัส มีฤทธิ์ยั้บยั้งการหลั่งของ hgh นอกจากนี้ยังมีผลต่อ Somatostatin receptor ในอวัยวะอื่นๆ อีก คือมีฤทธิ์ยั้บยั้ง TSH และ Prolactin, การหลั่งของ glucagon, อินซูลินจากตับอ่อน และฮอร์โมนต่างๆ จากระบบทางเดินอาหารhgh

hgh เป็นโพลีเป็ปไทด์สายเดี่ยวของกรดอะมิโน 191 ชนิด มีสูตรโครงสร้างคล้ายฮอร์โมน prolactin ซึ่งหลั่งมาจากต่อมใต้สมอง (พิทุอิทารี) ส่วนหน้า มีหน้าที่เกี่ยวกับ การเจริญเติบโต มีผลต่อกระดูก ข้อต่อ และโครงสร้าง
เชื่อมเนื้อเยื่อและไขมัน กล้ามเนื้อและอวัยวะภายใน อวัยวะอื่นๆ

เมื่อ hgh ไปที่ตับ ตับจะผลิตฮอร์โมน IGF เพื่อช่วยกระบวนการ เมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน และไขมัน หน้าที่ของ IGF-1 กระตุ้นการสร้าง Nucleic acid + โปรตีน
ทำให้เกิด Positive nitrogen balance
กระตุ้นการ Lipolysis (กระบวนการย่อยไขมัน) ลดการขับถ่าย และการสร้างยูเรีย

ความสำคัญของ hgh ที่ทำงานกับ IGF-1 เป็นฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น
ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกจนอายุ 25 ปี
ช่วยบำรุงรักษาสุขภาพที่ดี และทำให้เซลต่างๆทำงานตามปกติ
ช่วยฟื้นฟูความเป็นหนุ่มเป็นสาว ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง
เสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ

ภาวะขาด hgh ที่ทำงานกับ IGF-1 กล้ามเนื้อลีบลง
กระดูกพรุน
อ่อนเพลียไม่มีแรง
ผมหงอก
สมองเสื่อม ความจำถดถอย
เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ผิวหนังเหี่ยวย่น
ภาวะซึมเศร้า
ภูมิคุ้มกันต่ำ
หมดความต้องการทางเพศ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการหลั่ง hgh การนอนหลับ
ความเครียด
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
เอสโตรเจน
การออกกำลังกาย
ประโยชน์ของ hgh
จากการศึกษาในผู้ป่วยมากกว่า 28,000 รายทั่วโลก พบว่า hgh มีประโยชน์ดังนี้

1. การชะลอความแก่
กำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากการทำงานของเซล
ช่วยให้หลับสนิท ทำให้เซลสามารถซ่อมแซมตัวเองได้
ช่วยให้อายุยืน โดยร่างกายไม่เสื่อม และไม่เกิดโรค

2. พลังชีวิตและการทำงานของสมอง
มีผลต่อสารสื่อประสาท ลดอารมณ์ที่รุนแรง ความเครียด และซึมเศร้า

มีสมาธิ เกิดความเชื่อมั่น ตื่นตัว มีผลต่อการทำงานของประสาทตาและมือ
มี IQ สูงขึ้น เพิ่มระดับสติปัญญา และการเรียนรู้ เพิ่มความจำทั้งระยะสั้น-ยาว
IGF-1 จะป้องกันไม่ให้เซลสมองตาย โดยเฉพาะบริเวณความจำ ความคิด จึงช่วยผู้ป่วยสมองเสื่อม เช่น กล้ามเนื้อฝ่อลีบเพราะประสาทไม่มาเลี้ยงอวัยวะ, พาร์กินสัน และอัลไซเมอร์

3. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บุคลิกดีด้วยการลดไขมัน
โดยเพิ่มปริมาณและความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ
ความสามารถในการทำงาน โดยการเพิ่มขนาดและความแข็งแกร่ง
ความสามารถของนักกีฬา โดยเพิ่มความคงทนและความอึด ป้องกันการบาดเจ็บในการแข่งขัน
ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหัวใจของผู้สูงอายุ

4. ผลต่อผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ลดรอยเหี่ยวย่นและรอยตีนกา

5. ผลต่อกระดูก
ต่อต้านสภาวะกระดูกพรุน (ป้องกันไว้ก่อน เพราะเป็นแล้วจะใช้ ไม่ได้ผลที่ดีพอ)
เพิ่มความหนาแน่นของกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกราน
เพิ่มมวลกระดูก โดยมีวิตามินบี 3 จับแคลเซียมเข้าสร้างเซลกระดูก เพิ่มความแข็งแกร่ง และป้องกันกระดูกแตก

6. ผลต่อการทำงานของหัวใจ
ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด
ป้องกันอาการวูบหมดสติ ทำให้เซลตายหรือหัวใจวาย
เพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน โดยช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง สูบฉีดโลหิตได้ดีขึ้น
ลดไขมันเลว (LDL) ด้วยการเพิ่มไขมันดี (HDL)
7. เพิ่มการทำงานของปอด
การหายใจดีขึ้น อาการเหนื่อยลดลง
ช่วยผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง

8. เสริมระบบภูมิต้านทาน
8.1. เสริมหน้าที่ของระบบภูมิต้านทาน การทำงานของ T-Cell Lymphocyte
การสังเคราะห์ RBC
การสังเคราะห์ Antibody
การแข็งตัวของ Lymphocyte
เสริมกิจกรรมของ NK-Cell
ทำลายเซลล์เนื้องอก

8.2. ซ่อมแซมเซลล์และทำให้เซลล์แบ่งตัวดีขึ้นในผู้สูงอายุ (คนอายุ 80 ปี ให้ใกล้เคียงกับคนอายุ 20 ปี)
8. 3. ฟื้นฟูระบบภูมิต้านทาน ปรับสมดุลการสังเคราะห์ DNA
ปรับสมดุลการหลั่งอินซูลิน
ปรับสมดุลการทำงานของต่อมไทรอยด์
ปรับสมดุลชีวเคมีในสมอง
ควบคุมการกำจัดเชื้อโรค
เพิ่มระดับ IGF-1
9. เสริมการมองเห็น
สายตาดีขึ้น
ปรับการมองเห็นได้ชัด
สายตาปรับแสงได้ดี

10. เร่งการหายของบาดแผล
ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวช่วยยึดแผลให้ติดกัน
ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้ดี
ช่วยให้แผลที่ผิวหนังและกระดูกหายเร็วขึ้น เช่น แผลไฟไหม้รุนแรง, แผลจากการผ่าตัด

11. ผลต่ออารมณ์เพศ
เพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งชายและหญิง
ช่วยให้อารมณ์ทางเพศสมบูรณ์

ดูรายงานการวิจัย ผลการใช้ hgh ในอาสาสมัคร ของ L. Cass Terry, M.D., Ph.D., และ Edmund Chein, M.D. ด้านล่างเพิ่มเติม

กล้ามเนื้อ, ไขมัน ดีขึ้น
ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ 88%
ขนาดของกล้ามเนื้อ 81%
ไขมันลดลง 72%
ความอึดในการออกกำลังกาย 81%

พละกำลัง, อารมณ์, ความจำ ดีขึ้น
พละกำลังเพิ่มขึ้น 84%
อารมณ์คงที่ 67%
ทัศนคติต่อชีวิต 78%
ความจำ 62%

ผิวหนัง, เส้นผม ดีขึ้น
โครงสร้างของผิวหนัง 71%
ความหนาของผิวหนัง 68%
ความยืดหยุ่นของผิวหนัง 71%
ริ้วรอยหายไป 61%
ผมกลับงอกใหม่ 38%

ความสามารถในการฟื้นตัว ดีขึ้น จากการบาดเจ็บเรื้อรัง 55%
จากการบาดเจ็บในเรื่องอื่นๆ 61%
ประสิทธิภาพในการฟื้นตัว 71%
ความยืดหยุ่นบริเวณแผ่นหลัง 83%
ภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป 73%
อารมณ์เพศ ดีขึ้น ร่วมเพศได้นานและบ่อย 75%
องคชาติแข็งตัวได้นาน 62%
ความถี่ในการปัสสาวะกลางคืน 57%
อาการร้อนวูบวาบ 58%
ปรับประจำเดือนให้มาปกติ 39%

แหล่งค้นคว้าเรื่อง hgh
"Growth Young with hgh" by Dr.Ronald Klatz with Carol Kahn

ควรค่าสำหรับเก็บสะสมไว้ในห้องสมุดสุขภาพของครอบครัว จากเจ้าของต้นตำหรับในเรื่อง Human
Growth Hormone นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผู้คนทั่วโลกพิสูจน์แล้วว่าได้ผล

hgh จะช่วยคุณ กลับเป็นหนุ่มสาว
เพิ่มภูมิต้านทานโรค
มีอารมณ์ทางเพศสมบูรณ์
ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ

Paperback: 400 pages
Publisher: Collins (1998)
Language: English
ISBN: 0060984341
Dimensions: 8.0 x 5.3 x 1.0 inches
Shipping Weight: 10.24 ounces
Customer Review: